วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

10 ทริปชิลล์เว่อร์

🗽⛪🗽10 ทริปชิลล์เว่อร์🗽⛪🗽

 Slow Life ริมแม่น้ำแคว 
กาญจนบุรี
      ใครที่กำลังคิดถึงความรู้สึกดีๆ ที่ได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สูดอากาศสะอาดเข้าปอด นอนมองท้องฟ้าเรื่อยเปื่อย กระโดดลงน้ำเย็นฉ่ำให้สบายใจแล้วล่ะก็ เราชวนมาผ่อนคลายจากกิจวัตรประจำวันอันเร่งรีบกันที่ ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ (River Kwai Jungle Rafts) จ.กาญจนบุรี
Slow Life ที่พักริมแม่น้ำแคว นอนชิลล์ River Kwai Jungle Rafts กาญจนบุรี
Slow Life ที่พักริมแม่น้ำแคว นอนชิลล์ River Kwai Jungle Rafts กาญจนบุรี
      นอนบนแพลอยน้ำ ปล่อยใจ คลายความเหนื่อยล้าให้ไหลตามกระแสน้ำจนหายลิบไป และที่สำคัญ คนเดียวก็มาเที่ยวได้ค่ะ เพราะการเดินทางมาก็แสนง่าย จะขับรถมาจอดทิ้งไว้ หรือนั่งรถโดยสารมาลง และต่อรถมาที่ท่าเรือก็ยังได้ แถมมีกิจกรรมดีๆ ให้ทำตลอดทั้งวัน แต่ถ้าไม่อยากทำอะไรวุ่นวาย ไปนอนดูสายน้ำไหลไปเรื่อยๆ ก็ชิลล์ดี
Slow Life ที่พักริมแม่น้ำแคว นอนชิลล์ River Kwai Jungle Rafts กาญจนบุรี
 เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ วันเดียว เที่ยวทั่วแปดริ้ว 
ฉะเชิงเทรา
      วันหยุด วันพักผ่อนที่มีเพียงสองวัน หรือ วันเดียวเท่านั้นในสัปดาห์ บางทีก็รู้สึกลำบากใจกันเบาๆ ที่จะออกไปไหนมาไหน ขับรถไกลๆ ให้เหนื่อย แต่ทริปวันนี้ที่เราจะชวนให้ลองมาเที่ยวตามกันดู เป็นทริปไปเช้าเย็นกลับ เที่ยววันเดียวใกล้ๆ กรุงเทพฯ เพียง 2 ชม.เท่านั้น ที่เมืองแปดริ้ว หรือ จ.ฉะเชิงเทรา นี่เองค่ะ
เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ one day trip วันเดียว เที่ยวทั่วแปดริ้ว ไหว้หลวงพ่อโสธร เดินชิลล์ตลาดเก่าร้อยปี
รีแลกซ์เบาๆ เที่ยวเช้ากลับเย็น  ปั้นดินเล่นๆ ที่คุ้มวิมานดิน
     เริ่มจากไหว้พระทำบุญที่วัดหลวงพ่อโสธร เดินชิลล์ตลาดบ้านใหม่ร้อยปี แวะกินกุ้งเผาตัวโตๆ ริมน้ำ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ครบทุกองค์ที่ วัดสมานรัตนาราม นั่งๆ นอนๆ ปั่นดินที่คุ้มวิมานดิน ทริปแบบนี้ จะชิลล์ไปไหน !
เดินชิลล์ เที่ยวตลาดบ้านใหม่ ร้อยปี ที่แปดริ้ว ของดี ของอร่อย เพียบ !
 เดินชิลล์ชมไร่ชา ที่ไร่ชาฉุยฟง 
เชียงราย
      วิวภูเขาสูงรายล้อมไร่ชาสีเขียวเป็นแนวยาว และฟ้าสีคราม นี่คือ ไร่ชาฉุยฟง จังหวัดเชียงราย ค่ะ ไปชิลล์นั่งจิบชา และลงไปถ่ายรูปสวยๆ ในไร่ชากันอย่างสบายใจ อร่อยกับเค้กชาเขียว น้ำชาเขียว และผลิตภัณฑ์จากชาแบบทุกชนิด ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศดีๆ และภูเขาสูง
เดินชิลล์ชมไร่ชา ที่ไร่ชาฉุยฟง เชียงราย
เดินชิลล์ชมไร่ชา ที่ไร่ชาฉุยฟง เชียงราย
เดินชิลล์ชมไร่ชา ที่ไร่ชาฉุยฟง เชียงราย
                                     Coro Field สวนผึ้ง Lifestyle Farming สไตล์ญี่ปุ่น 
ราชบุรี
      ไปเที่ยวชิมเมล่อนหวานๆ และค้นหาแรงบันดาลใจผ่านกิจกรรมสนุกๆ ที่ Coro Field ที่เที่ยวรูปแบบใหม่ Lifestyle Farming สไตล์ญี่ปุ่นแห่งเดียวในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีนี่เอง
พาเที่ยว Coro Field สวนผึ้ง Lifestyle Farming สไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกในไทย
พาเที่ยว Coro Field สวนผึ้ง Lifestyle Farming สไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกในไทย
     ที่นี่มีกิจกรรมมากมายทั้งชมผักออร์แกนิค ปลูกผักออร์แกนิค กินผักออร์แกนิค รวมไปถึงยังมาง่าย และสะดวก เที่ยวคนเดียวได้สบายๆ
พาเที่ยว Coro Field สวนผึ้ง Lifestyle Farming สไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกในไทย
 ชิลล์ เที่ยวเชียงคาน เมืองโบราณริมน้ำโขง 
เลย
     จุดหมายปลายทางของเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ หนึ่งในนั้นคือที่นี่ เชียงคาน ค่ะ เมืองที่ยังคงความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมโบราณดั้งเดิม เป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวมาทุกยุคทุกสมัย ไม่น่าเชื่อว่าตรอกเล็กๆ ริมน้ำโขงแห่งนี้จะมีนักท่องเที่ยวทุกมุมโลกมาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย และที่สำคัญเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สามารถไปเที่ยวได้ในทุกช่วงเวลาทั้งหน้าร้อน หน้าฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าหนาว
ชิลล์ เที่ยวเชียงคาน...เมืองโบราณริมน้ำโขง
ชิลล์ เที่ยวเชียงคาน...เมืองโบราณริมน้ำโขง
      ที่พลาดไม่ได้คือการปั่นจักรยานเลียบริมแม่น้ำโขงยามเย็นมองเห็นฝั่งลาวอยู่ไม่ไกล ได้ความชิลล์ และเห็นวิถีชีวิตริมฝั่งโขง ใครอยากมาคนเดียวเที่ยวที่นี่ไม่มีคำว่ายาก จะมาเครื่องบิน แล้วมาต่อรถโดยสารท้องถิ่นเข้าเชียงคาน หรือ ขับรถมา หรือมาด้วยขนส่งมวลชน ก็ง่ายสบายบรื๊อออ
ชิลล์ เที่ยวเชียงคาน...เมืองโบราณริมน้ำโขง
 เพลินๆ กับทะเลใกล้กรุง พัทยา 
ชลบุรี
      อะโลฮ่า พัทยา ! ทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่ชิลล์ไม่น้อยไปกว่าที่ไหน ได้ครบทุกอารมณ์ แถมครื้นเครงด้วยสีสันยามค่ำคืน จะพัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ ก็สามารถนั่งรถสองแถวประจำท้องถิ่นไปได้ทุกที่ แถมยังมีที่เที่ยว ร้านอาหาร น่ารักๆ บรรยากาศดีๆ ผุดขึ้นเรื่อยๆ ที่นี่แหละค่ะ ที่จะทำให้การเที่ยวคนเดียวสนุกไปอีกแบบ
เที่ยวพัทยา 2 วัน 1 คืน เพลินๆ กับทะเลใกล้กรุง และที่เที่ยวแห่งใหม่ในพัทยา
รีวิว ห้องอาหาร Edge Hilton Pattaya บุฟเฟต์นานาชาติ 7 วัน 7 สไตล์
Art in paradise งานศิลป์ 3D สัมผัสได้ ที่พัทยา
 เที่ยวเกาะไหง ดำน้ำ 4 เกาะ ชมปะการัง 
ตรัง
      ทะเลตรังเป็นอีกที่ที่เงียบสงบ และสวยงามค่ะ เลยเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าจะไปเที่ยวคนเดียวชิลล์ๆ ได้ เพราะการเดินทางไปที่เกาะไหงนี้ไม่ได้อยากอะไร ไปแบบชิลล์ๆ สบายๆ ได้เลยทั้งรถส่วนตัว และรถโดยสารขนส่ง รวมไปถึงที่เกาะไหงยังมีกิจกรรมดีๆ อย่างการดำน้ำชมปะการัง เราสามารถซื้อแพ็คเกจดำน้ำ 1 วันเต็มๆ ได้กับทางรีสอร์ท และออกทะเลไปลั้ลล้ากันได้เลย
ทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน เที่ยวเกาะไหง ดำน้ำ 4 เกาะ ชมปะการังเกาะกระดาน ถ้ำมรกต ทะเลตรัง
ทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน เที่ยวเกาะไหง ดำน้ำ 4 เกาะ ชมปะการังเกาะกระดาน ถ้ำมรกต ทะเลตรัง
ทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน เที่ยวเกาะไหง ดำน้ำ 4 เกาะ ชมปะการังเกาะกระดาน ถ้ำมรกต ทะเลตรัง
 ลงเรือด่วนเจ้าพระยา ไหว้พระ 9 วัด  
กรุงเทพฯ
     ไม่ต้องไปไหนไกล ซื้อแพ็คเกจไหว้พระ 9 วัด เที่ยววันเดียวกับเรือด่วนเจ้าพระยาในกรุงเทพฯ นี่แหละ นอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ยังได้บรรยากาศใหม่ๆ ล่องเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาให้ลมพัด น้ำกระเซ็นใส่หน้า นอกจากนี้ การเดินทางมายังง่ายมากๆ ด้วย เริ่มจากการมาลงเรือที่ท่าน้ำสาธร วิธีการเดินทางมาง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีตากสินนั่นเอง ที่ท่าน้ำสาธร หรือตามวัดต่างๆ เช่น วัดอรุณฯ จะมีบริการเรือด่วนพาเราไปไหว้พระ 9 วัดอยู่แล้วค่ะ
ลงเรือด่วนเจ้าพระยา ไหว้พระ 9 วัด ในกรุงเทพฯ
ลงเรือด่วนเจ้าพระยา ไหว้พระ 9 วัด ในกรุงเทพฯ
ลงเรือด่วนเจ้าพระยา ไหว้พระ 9 วัด ในกรุงเทพฯ
เดินเที่ยวอัมพวา แวะชมโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์
สมุทรสงคราม
      หลายคนคงรู้จักกับตลาดน้ำอัมพวากันดีอยู่แล้ว เพราะเป็นตลาดน้ำอีกแห่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในเรื่องของ ของอร่อย และการนั่งเรือล่องแม่น้ำชมหิ้งห้อยยามค่ำคืนที่ จ.สมุทรสงคราม แถมยังไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเรื่องมาเที่ยวคนเดียวนั้นสบายๆ หายห่วง เพราะรถตู้โดยสารในกรุงเทพฯ มีมาลงที่ตลาดอัมพวาทุกวี่ทุกวัน เรามาเดินชิลล์ตลาดน้ำแห่งนี้ได้สบาย
เดินเที่ยวอัมพวา ชมโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์
เดินเที่ยวอัมพวา ชมโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์
เดินเที่ยวอัมพวา ชมโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์
 เที่ยวเมืองเก่าภูเก็ต เดินชิลล์ชมตึกชิโนโปตุกีส 
ภูเก็ต
      ใครว่าภูเก็ตทะเลสวยอย่างเดียว ขอเถียงคอเป็นเอ็นเลยค่ะว่าไม่จริ๊ง ไม่จริง เพราะนอกจากทะเลสวย น้ำใส หมู่เกาะต่างๆ แล้ว ในตัวเมืองภูเก็ตเขาก็มีของดีที่หาชมที่ไหนได้ยากอยู่ด้วยเหมือนกัน นั่นก็คือ “เมืองเก่าภูเก็ต ตึกชิโนโปตุกีส” หลากหลายสีสัน เพราะฉะนั้นใครที่กำลังจะไปเที่ยวภูเก็ต ขอให้ไปเดินเล่นชิลล์ในเมืองดูสักครั้งค่ะ
เที่ยวเมืองเก่าภูเก็ต  เดินชิลล์ชมตึกชิโนโปตุกีสหลากหลายสีสัน
เที่ยวเมืองเก่าภูเก็ต  เดินชิลล์ชมตึกชิโนโปตุกีสหลากหลายสีสัน
      นอกจากนี้ การเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตนั้นก็แสนง่ายทั้ง เครื่องบิน และรถขนส่งมวลชน พอมาถึงก็สามารถหารถสองแถวท้องถิ่นต่อรถเข้าเมืองภูเก็ตได้เลย อีกทั้งในเมืองยังมีที่พักหลากหลายให้เลือกกันมากมายอีก นอกจากเที่ยวในเมืองแล้ว จะแวะไปเดินชิลล์ตามชายหาดก็ได้เหมือนกัน
เที่ยวเมืองเก่าภูเก็ต  เดินชิลล์ชมตึกชิโนโปตุกีสหลากหลายสีสัน

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์


👋เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์พระราชนิพนธ์ 👋

👏👏  ในหลวง ร.9 👏👏


เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิสเซอร์แลนด์...พระราชนิพนธ์ ฉบับแรกของ ในหลวง ร. 9

         เปิดพระราชนิพนธ์ฉบับเต็ม ในหลวง รัชกาลที่ 9 "เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์" บันทึกประจำวันระหว่างที่พระองค์เสด็จฯ กลับไปทรงศึกษาต่อ เมื่อปี พ.ศ. 2489
       หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับคำกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้นสืบสันตติวงศ์ไอศวรรย์สมบัติแล้ว จำต้องเสด็จฯ กลับไปทรงศึกษาต่อ เมื่อปี พ.ศ. 2489 ซึ่งพระองค์ได้พระราชทาน พระราชนิพนธ์แรกให้กับหนังสือ "วงวรรณคดี" โดยทรงพระอักษรบันทึกประจำวันที่เขียนไว้ก่อนและระหว่างวันเดินทางจากสยามสู่สวิตเซอร์แลนด์
       นับแต่วันที่ทรงพระราชนิพนธ์ เรื่อง "เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์" ถือเป็นเวลา 70 ปีบริบูรณ์แล้ว ล่าสุดวันที่ 25 ตุลาคม 2559 นิตยสารแพรว ได้น้อมอัญเชิญมาเผยแพร่อีกครั้งอย่างครบถ้วนทุกถ้อยความ และสะกดตามต้นฉบับ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิสเซอร์แลนด์...พระราชนิพนธ์ ฉบับแรกของ ในหลวง ร. 9

วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙
    อีกสามวันเท่านั้น เราก็จะต้องจากไปแล้ว ฉะนั้นจึงตั้งใจจะไปนมัสการพระพุทธชินสีห์ที่วัดบวรนิเวศน์วิหาร รวมทั้งสมเด็จพระสังฆราชด้วย.
    เมื่อไปถึงวัดบวรนิเวศน์วิหารตอนบ่ายวันนี้ มีประชาชนผู้รู้ว่าข้าพเจ้าจะมา มายืนรออยู่บ้าง แต่ไม่สู้มากนัก เข้าไปในพระอุโบสถ จุดเทียนนมัสการ ฯลฯ แล้วได้มีโอกาสทูลปฏิสันถารกับสมเด็จพระสังฆราช ทรงนำพระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์สูงให้มารู้จัก โดยปรกติได้เคยเห็นหน้าท่านเหล่านี้มาจนชินแล้ว ทรงนำขึ้นไปนมัสการพระสถูป บนนั้นมีพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ ชื่อ พระไพรีพินาศ พระองค์นี้เคยทรงเล่าประวัติให้ฟังมาก่อนหน้านี้แล้วหลายวัน หลังจากนั้นก็นมัสการลา.
   ตอนนี้มีราษฎรชุมนุมกันหนาตาขึ้น ต่างก็ยัดเยียดเบียดเสียดกันจนรู้สึกเกรงไปว่า รถที่นั่งมาจะทับเอาใครเข้าบ้าง ช่างเคราะห์ดีแท้ๆ ที่ไม่มีอันตรายอันใดเกิดขึ้นแก่ประชาชนที่มานั้นเลย ในหมู่ประชาชนที่มารอรับกันอยู่วันนี้ จำได้ว่า มีบางคนเคยเห็นที่พระมหาปราสาทเป็นประจำมิได้ขาด ไม่รู้ว่าหาเวลามาจากไหน จึงไปที่พระมหาปราสาทได้เสมอเกือบทุกวัน อังคาร พฤหัสบดี และวันอาทิตย์ พวกนี้ก็มาที่วัดนี้ด้วยเหมือนกัน.
วันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙
เก็บของลงหีบและเตรียมตัว…
วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ 
เราจะต้องจากไปในวันพรุ่งนี้แล้ว!  อะไรก็จัดเสร็จหมด หมายกำหนดการก็มีอยู่พร้อม… บ่ายวันนี้เราไปถวายบังคมลาพระบรมอัฐิของพระบรมราชบุพพการีของเรา ทั้งสมเด็จพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระบรมราชินีในรัชกาลก่อนๆ แล้วก็ไปถวายบังคมลาพระบรมศพ เราต้องทูลลาให้เสร็จในวันนี้ และไม่ใช่พรุ่งนี้ตามที่ได้กะไว้แต่เดิม เพื่อจะรีบไม่ให้ชักช้า เพราะพรุ่งนี้จะได้มีเวลาแล่นรถช้าๆ ให้ราษฎรเห็นหน้ากันโดยทั่วถึง.
เมื่อออกจากพระที่นั่งไพศาลทักษิณมายังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ผู้คนอะไรช่างมากมายเช่นนั้น เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาถามว่า จะอนุญาตให้ประชาชนเข้ามาหรือไม่ในขณะที่ไปถวายบังคมพระบรมศพ ตอบเขาว่า “ให้เข้ามาซิ” เพราะเหตุว่า วันอาทิตย์เป็นวันสำหรับประชาชน เป็นวันของเขา จะไปห้ามเสียกระไรได้ และยิ่งกว่านั้นยังเป็นวันสุดท้ายก่อนที่เราจะจากบ้านเมืองไปด้วย ข้าพเจ้าก็อยากจะแลเห็นราษฎร เพราะกว่าจะได้กลับมาเห็นเช่นนี้ก็คงอีกนานมาก… วันนี้พวกทหารรักษาการณ์กันเต็มที่ เพื่อกันทางไว้ให้รถแล่นได้สะดวก ไม่เหมือนอย่างเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ที่มากันคน ช้าเกินไป…
วันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ 
วันนี้ถึงวันที่เราจะต้องจากไปแล้ว…พอถึงเวลาก็ลงจากพระที่นั่งพร้อมกับแม่ ลาเจ้านายฝ่ายใน ณ พระที่นั่งชั้นล่างนั้น แล้วก็ไปยังวัดพระแก้วเพื่อนมัสการลาพระแก้วมรกต และพระภิกษุสงฆ์ ลาเจ้านายฝ่ายหน้า ลาข้าราชการทั้งไทยและฝรั่ง แล้วก็ไปขึ้นรถยนต์ พอรถแล่นออกไปได้ไม่ถึง ๒๐๐ เมตร มีหญิงคนหนึ่งเข้ามาหยุดรถแล้วส่งกระป๋องให้เราคนละใบ ราชองครักษ์ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้น บางทีจะเป็นลูกระเบิด! เมื่อมาเปิดดูภายหลังปรากฎว่าเป็นทอฟฟี่ที่อร่อยมาก ตามถนนผู้คนช่างมากมายเสียจริงๆ ที่ถนนราชดำเนินกลาง ราษฎรเข้ามาใกล้จนชิดรถที่เรานั่ง กลัวเหลือเกินว่าล้อรถของเราจะไปทับแข้งทับขาใครเข้าบ้าง
รถแล่นฝ่าฝูงคนไปได้อย่างช้าที่สุด ถึงวัดเบญจมบพิตร รถแล่นเร็วขึ้นได้บ้าง ตามทางที่ผ่านมา ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องขึ้นมาดังๆ ว่า “อย่าละทิ้งประชาชน” อยากจะร้องบอกเขาลงไปว่า ถ้าประชาชนไม่ “ทิ้ง” ข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะ “ละทิ้ง” อย่างไรได้ แต่รถวิ่งเร็วและเลยไปไกลเสียแล้ว.
เมื่อมาถึงดอนเมือง เห็นนิสิตมหาวิทยาลัยผู้จงใจมาเพื่อส่งเราให้ถึงที่ ได้รับของที่ระลึกเป็นรูปเครื่องหมายของมหาวิทยาลัย ๑๑.๔๕ นาฬิกาแล้ว มีเวลาเหลืออีกเล็กน้อยสำหรับเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวที่สโมสรนายทหาร ต่อจากนั้นก็ไปขึ้นเครื่องบิน เดินฝ่าฝูงคนซึ่งเฝ้าดูเราอยู่จนวาระสุดท้าย.
เมื่อขึ้นมาอยู่บนเครื่องบินแล้วก็ยังมองเห็นเหล่าราษฎร ได้ยินเสียงไชโยโห่ร้องอวยชัยให้พร แต่เมื่อคนประจำเครื่องบินเริ่มเดินเครื่องทีละเครื่องๆ เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นหวั่นไหวกลบเสียงโห่ร้องก้องกังวานของประชาชนที่ดังอยู่หมด พอถึง ๑๒ นาฬิกา เราก็ออกเดินทาง มาบินวนอยู่เหนือพระนครสามรอบ ยังมองเห็นประชาชนแหงนดูเครื่องบินทั่วถนนทุกสายในพระนคร.
บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันตกมุ่งตรงไปยังเกาะลังกา (ซีลอน) เสียงเครื่องบินสนั่นหนวกหู หากผู้ใดอยากจะพูดก็จะต้องตะโกนออกมาให้สุดเสียง ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดเลย ทางที่ดีที่สุดที่พึงทำคือหลับตาเสียแล้วนิ่งคิด… แปลกดีเหมือนกันที่ใจหวนไปคิดว่า เพียงชั่วโมงเดียวที่ผ่านมาเมื่อตะกี้นี้เอง เรายังห้อมล้อมไปด้วยประชาชนชาวไทย แต่เดี๋ยวนี้เล่า เรากำลังเหาะอยู่เหนือท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล แม้จะมีเสียงเครื่องยนต์ ก็ดูเป็นเหมือนเงียบและนิ่งอยู่กับที่ เพราะเสียงทุกๆ เสียงจากสิ่งมีชีวิตได้จางหายไปหมดแล้ว และกำลังชินกับเสียงครางกระหึ่มของเครื่องยนต์นั้น หวนกลับไปนึกดูเมื่อ ๙ เดือนที่แล้วมา เรากำลังบินไปในทิศทางตรงกันข้าม เพื่อจะเยี่ยมเยียนประเทศหนึ่ง เยี่ยมอาณาประชาชนที่เราต้องพลัดพรากจากมาถึง ๗ ปีเต็มๆ โดยที่เราเกือบไม่รู้เรื่องและข่าวคราวของบ้านเมืองและประชาชนของเราเลยแม้แต่น้อย… เดี๋ยวนี้เรากำลังบินจากประเทศนั้น จากประชาชนพลเมืองเหล่านั้นไปแล้ว การจากครั้งนี้มิได้เพียงแต่จากมาอย่างเดียวเท่านั้น ข้าพเจ้าได้จากเรื่องที่ล่วงแล้วมาด้วย… สจ๊วตเข้ามาขัดจังหวะเสีย ทำให้ความคิดที่กำลังเพลิดเพลินจางไปเสียจากสมอง เขานำอาหารกลางวันที่มีรสกลมกล่อมเข้ามาให้ การเดินทางในระยะต่อมาช่างเปล่าเปลี่ยวเสียจริงๆ สิ่งที่มองเห็นในเบื้องหน้าไม่มีอะไรเสียเลย นอกจากท้องทะเลเขียวครามอันแสนลึก นานๆ จะแลเห็นเกาะบ้างเป็นครั้งคราว.
เรามาถึงเมืองเนแกมโบ (Negambo) ใกล้ๆ กับโคลัมโบ เมืองหลวงของเกาะลังกา ภายหลังจากที่ได้บินมาเป็นเวลานานถึง ๘ ชั่วโมงกับ ๑๕ นาที เดี๋ยวนี้ ๑๘.๔๕ นาฬิกาตามเวลาของลังกาแล้ว เมื่อเทียบเวลาที่กรุงเทพฯ ที่นี่ช้ากว่า ๑ ชั่วโมงกับ ๓๐ นาทีพอดี.
ข้าหลวงประจำเกาะลังกาคือ เซอร์ยอห์น เฮาเวิรด (Sir John Howard) ได้เดินทางจากโคลัมโบมาเพื่อต้อนรับเรา ข้าพเจ้าขึ้นนั่งรถยนต์มีท่านข้าหลวงตามมาด้วย ส่วนแม่นั้นไปกับภรรยาของเขา ระยะทางจากสนามบินไปยังจวนข้าหลวงในเมืองโคลัมโบต้องนั่งรถไปราว ๓๐ นาที อันเป็นระยะที่กำลังสบายและมีโอกาสได้ชมภูมิประเทศตามถนน – ตามที่เห็นมาด้วยตาและตามคำบอกเล่าของเซอร์ยอห์น เฮาเวิรด รู้สึกว่าเกาะลังกานี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับเมืองไทยเราเสียจริงๆ เป็นเมืองที่อุดมดี และดูก็งามตา ประชาชนก็สุภาพและมีนิสัยดี เหตุที่ทำให้เหมือนมากนี้ข้อสำคัญอยู่ที่นับถือศาสนาร่วมกันกับไทยเรา.
พอมาถึงจวนข้าหลวง ก็ตรงเข้าห้องพัก เป็นห้องกว้างและสบาย ที่นี่ไม่ค่อยร้อนเหมือนเมืองไทย ทั้งไม่มียุงด้วย ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีมุ้ง เราได้พักผ่อนชั่วครู่ภายหลังที่ได้เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย หูยังอื้ออยู่เพราะเสียงเครื่องบิน กินข้าวมื้อเย็นกับข้าหลวง และรู้สึกดีใจเหลือเกินที่ได้หลับนอนตามสบาย เพราะรุ่งเช้าพรุ่งนี้จะต้องบินต่อไปยังเมืองการาจี.
วันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ 
เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา ก่อนที่จะออกเดินทาง เราไปที่วัดในพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่งที่อยู่ในเมือง เข้าไปในโบสถ์แล้วจุดเทียน (เทียนไขเราดีๆ นี่เอง) เอาดอกไม้ที่ข้าหลวงจัดมาให้บูชาพระ สมภารเจ้าวัดนี้ เป็นคนคนเดียวกันกับที่ได้เคยต้อนรับเราเมื่อคราวมาเที่ยวที่แล้ว ที่วัดนี้เองเมื่อ ๘ ปีมาแล้ว พี่ชายของข้าพเจ้าได้มาปลูกต้นจันทน์… บนแท่นที่บูชายังมีรูปถ่ายเป็นรูปพี่ที่เคยมาด้วยกัน กำลังตั้งท่าปลูกอยู่ทีเดียว สมภารได้นำเราไปยังต้นจันทน์ต้นนั้น คาดว่าจะใหญ่โต แต่ดูไม่เจริญงอกงามเสียเลย สูงยังไม่เกินสองฟุต.
เมื่อออกมาจากวัด มีประชาชนกลุ่มหนึ่งมาคอยเฝ้า บางคนยกมือขึ้นไหว้อย่างไทยๆ เรา บางคนตบมือ บางคนตะโกนออกมาด้วยความพออกพอใจ มาถึงสนามบินเวลาประมาณ ๙.๐๐ นาฬิกา เราลาข้าหลวงและภริยาผู้มีอัธยาศัยสุภาพอ่อนโยน และให้ความเอื้อเฟื้อต่อเราเป็นอย่างดี แล้วขึ้นเครื่องบินจากมา.
การเดินทางเป็นไปอย่างปกติ สจ๊วตนำอาหารมาให้เรากินตามเวลามิได้ขาด บางทีก็ได้รับรายงานจากนักบิน แสดงด้วยแผนที่ ให้เห็นว่า เดี๋ยวนี้เราอยู่ตรงไหน บางทีก็รายงานอากาศที่เราจะต้องประสบในเบื้องหน้า ตลอดจนความเร็ว และระยะสูงของเครื่องบิน ฯลฯ เป็นการเดินทางที่สะดวกและสบายดี…
ในตอนจวนจะถึง อากาศไม่สู้ดีเหมือนที่แล้วมา เพราะมรสุมกำลังตั้งเค้า แต่เรากำลังจะถึงการาจีอยู่แล้ว เพราะเครื่องบินบินเร็วทำเวลาได้ดีมาก เมื่อบินอยู่เหนือเมือง มองดูรอบๆ ลักษณะเป็นทะเลทรายเราดีๆ นี่เอง ช่างไม่มีชีวิตจิตใจเสียเลย ที่ตั้งเป็นเมืองขึ้นได้ ก็เพราะเป็นท่าเรือใหญ่ อยู่ในทำเลที่เหมาะ เครื่องบินลงถึงพื้นดินเมื่อเวลา ๑๗ นาฬิกา บินมาได้ ๘ ชั่วโมง มีพวกข้าราชการมาคอยรับอยู่ ขึ้นรถตรงไปศาลาว่าการของรัฐบาลเป็นแขกของข้าหลวงเช่นเดียวกับที่เกาะลังกา.
พรุ่งนี้เราจะต้องบินเป็นระยะทางไกล ฉะนั้นจึงอยากจะนอนแต่หัวค่ำสักหน่อย แต่ว่าต้องกินข้าวกับข้าหลวงและคณะ จำต้องสนทนาปราศรัยถึงเรื่องที่ไม่มีเรื่องเหมือนที่พวกฝรั่งนิยมกัน กว่าจะได้พักผ่อนหลับนอนก็เกือบสองยาม เราเพลียมาก รู้สึกว่าหลับได้อย่างง่ายดาย.
วันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙
จากศาลาว่าการรัฐบาลไปสนามบิน รถวิ่ง ๒๐ นาที ผ่านเข้าไปในย่านการค้าในเมือง มีข้อที่น่าสนใจและพึงสังเกตอยู่บ้างคือ- พบคนนอนหลับอย่างสบายอยู่ข้างทางและตามประตู พวกที่ตื่นลุกขึ้นล้างหน้าที่ท่อน้ำใกล้ๆ กับที่นอน และเขาทำกันอย่างนี้ ในบริเวณที่มีตึกรามตามแบบสมัยใหม่ในย่านการค้าเช่นนั้น!
ประชาชนพลเมืองเหล่านี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น สีของเสื้อผ้านั้นขาวหรือก็คงต้องเป็นสีขาวมาก่อน ที่มาแลเห็นเป็นสีเทาไปมากกว่าสีขาวนั้น ก็เพราะระคนปนไปกับฝุ่น นอกจากนี้ยังได้เห็นวัวศักดิ์สิทธิ์เดินท่องเที่ยวหาอาหารอยู่ตามท้องถนนหลวง จะไปไหนมาไหนไม่มีใครกล้าจะขับไล่ ไม่ว่าจะเกิดหิวขึ้นมาเมื่อไร พบร้านขายผัก ก็เดินเข้าไปเลือกกินได้ตามใจชอบ ส่วนเจ้าของร้านนั้น เมื่อวัวเข้าไปก็ถือว่าเป็นมงคล…
ถึงสนามบินเวลา ๘.๓๐ นาฬิกา และออกบินในทันทีที่มาถึง เครื่องบินบ่ายหัวตรงไปสู่ท้องทะเลด้วยอัตราความเร็ว ๓๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ท้องฟ้าแจ่มกระจ่าง จนสามารถมองเห็นเรือหาปลาเล็กๆ ในท้องทะเลได้ถนัด ทั้งๆ ที่บินอยู่สูงถึง ๒,๕๐๐ เมตร ข้าพเจ้าชอบเดินไปที่ๆ นักบินขับบ่อยๆ และนั่งลงข้างๆ ตรงที่นั่งของนักบินสำรอง ช่างมีเครื่องบังคับหลายอย่างเสียจริงๆ บังคับปีก บังคับใบพัด เครื่องยนต์ ถังน้ำมัน และอื่นๆ อีกมาก ในตอนต้นๆ ออกจะงงๆ แต่นักบินเป็นคนที่สุภาพมาก ได้พยายามชี้แจงให้เข้าถึงเครื่องทุกๆ ส่วนที่มีอยู่.
ที่ข้อมือนักบิน สังเกตเห็นว่าผูกนาฬิกาไว้ถึงสองเรือน เรือนหนึ่ง ๖ นาฬิกา อีกเรือนหนึ่ง ๔ นาฬิกา แต่ของเราเองเป็น ๙.๓๐ นาฬิกา เขาอธิบายให้เข้าใจว่า ๔ นาฬิกานั้น เป็นเวลาที่กรีนิช (Greenich) ๖ นาฬิกานั้น เป็นเวลาที่กรุงไคโรที่เรากำลังจะไป และ ๙.๓๐ นาฬิกานั้นเป็นเวลาที่การาจี เราจะไปไคโรจึงเลื่อนเข็มถอยหลังกลับไปสามชั่วโมงครึ่ง.
ราวๆ เที่ยงเราบินอยู่เหนือทะเลทรายอาหรับ มีหลุมอากาศหลายแห่ง ฝรั่งเรียกว่า “bumps” เป็นลมสูงขึ้น เกิดจากความร้อนของทรายจากเบื้องล่างที่ถูกพระอาทิตย์แผดเผา หลุมอากาศเหล่านี้มีอยู่ตลอดทาง กระทั่งผ่านพ้นเขตต์ของทะเลทรายนั้นไป คือราว ๑๔.๓๐ นาฬิกา การผ่านหลุมอากาศวับๆ หวำๆ เช่นนี้ไม่มีความสบายเลย และความไม่สบายใจที่ทวีขึ้นเมื่อพวกประจำเครื่องบินเล่าให้ฟังว่า หากเราจำเป็นต้องร่อนลงยังท้องทะเลทรายนี้แล้ว ออกจะน่าวิตกอยู่มาก ที่ชาวพื้นเมืองเบื้องล่างนี้ มิค่อยจะเป็นมิตรที่ดีของคนแปลกหน้านัก.
ล่วงไปอีกชั่วโมงหนึ่งก็ผ่านคลองสุเอซ กำลังมีเรือแล่นเข้าคลอง มีเรือรบขนาดหนักลำหนึ่งจอดอยู่ที่นั่น ขนาดของเรือลำนี้เห็นจะหนักกว่าเรือศรีอยุธยา ประมาณ ๑๖ เท่า แม้กระนั้นมองดูช่างเล็กเสียเหลือเกิน เมื่อเทียบกับความกว้างใหญ่ไพศาลของท้องทะเลและความเวิ้งว้างของทะเลทรายอันมหึมานั้น.
เรามาถึงสนามบินอัลมาซ่า (Almaza) ใกล้ๆ กับกรุงไคโร หลังจากที่ทำการบินมาแล้วเป็นเวลา ๑๑ ชั่วโมง ๔๕ นาที เราเหน็ดเหนื่อยเพราะถูกรบกวนด้วยเสียงสนั่นหวั่นไหวของเครื่องบินด้วยหลุมอากาศ และด้วยความสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ทำเอาเรางงไปหมด…
เราไปพักอยู่ ณ โรงแรมที่ดีแห่งหนึ่ง และได้พักผ่อนอย่างสุขสำราญ ในตอนเย็นสมุหพระราชมณเฑียรของพระเจ้าฟารุคได้เชิญพระราชปราศรัยของพระองค์มา ข้าพเจ้าก็ได้สนองพระราชอัธยาศัยไปตามสมควร นอกประตูของห้องเรา มีตำรวจอียิปต์ยืนยามอยู่ ทั้งนี้เพราะรัฐบาลอียิปต์ได้จัดไว้เพื่อความปลอดภัยของเรา.
กรุงไคโรเป็นเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยตึกสมัยใหม่ แต่เบื้องหลังของตึกเหล่านี้ มีบ้านกระจอกงอกง่อยอยู่เป็นอันมาก บ้านเหล่านี้เป็นที่อยู่ของคนจน เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่และสัตว์อื่นๆ อีกตามถนน รถรางก็เต็มไปด้วยผู้คนเบียดเสียดยัดเยียดห้อยโหนกันจนไม่มีที่ว่าง และล้วนแต่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าปุปะไม่มีชิ้นดี เป็นผู้ชายทั้งนั้นเกือบไม่มีผู้หญิงปะปนอยู่ด้วยเลย คล้ายๆ กับที่การาจีอยู่มาก ผู้คนหลับอย่างแสนสบายตามสนามหญ้าข้างถนน รถยนต์มีมาก แต่เป็นรถรับจ้างที่ขับกันอย่างเร็วปรื๋อโดยมาก.
วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ 
คืนนี้สบายดีแท้ ถ้าไม่คำนึงถึงเสียงที่มาจากโรงหนังใกล้ๆ ที่พัก กินอาหารเช้าแล้วก็ออกเดินทางไปสนามบินด้วยรถยนต์ สมุหพระราชมณเฑียรของพระเจ้าฟารุค มาส่งและเชิญพระพรให้เดินทางโดยสวัสดีของพระองค์มาประทาน…ข้าพเจ้าตอบขอบพระราชหฤทัยและขอให้นำความไปทูลขอให้ทรงพระเจริญสุข กับขออำนวยพรให้ประชาชนพลเมืองของพระองค์มีความสุขสำราญด้วย.
รอบๆ เครื่องบินมีตำรวจอียิปต์รักษาการณ์อยู่อย่างกวดขันยิ่งนัก เวลา ๘.๑๕ นาฬิกา เริ่มออกเดินทาง ต่อมาอีก ๔๐ นาที ก็ผ่านเมืองอเล็กซานเดรีย เมืองท่าใหญ่ที่สุดของอียิปต์ วันนี้ต้องบินถึง ๙ ชั่วโมง กับ ๕๐ นาที จะถึงกรุงเจนีวาราวๆ ๑๗.๐๕ นาฬิกา.
writings by the king
ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย เมื่อสามวันที่แล้ว เรายังอยู่เมืองไทย และวันนี้เราจะถึงสวิทเซอร์แลนด์แล้ว ระยะทางตั้ง ๑๐,๐๐๐ กิโลเมตรกว่า…เวลากว่า ๑๕.๐๐ นาฬิกา เราต้องบินฝ่ากระแสลมอันแรงทำให้เครื่องบินต้องช้าลง และช้าไปกว่ากำหนด ๑๕ นาที เมื่อเวลา ๑๖ นาฬิกา ช้ามากขึ้นอีกเป็น ๔๕ นาที เรากำลังบินอยู่เหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บางเวลาก็แลเห็นเกาะต่างๆ เกาะใหญ่ที่สุดคือ เกาะซารดิเนียและคอร์ซิกา กว่าจะแลเห็นฝั่งก็ ๑๖.๔๐ นาฬิกา เป็นชายฝั่งของฝรั่งเศส อีกชั่วโมงเดียวเท่านั้น เราจะถึงสวิตเซอร์แลนด์แล้ว…จากขอบฟ้าสลัวๆ ที่บดบังด้วยเมฆหมอก แลเห็นเมืองๆ หนึ่งอยู่ริมทะเลสาบใหญ่ เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่เมืองนั้นๆ คือ เมืองเจนีวา อันเป็นที่หมายปลายทางที่เรามาด้วยเครื่องบิน และเราจะต้องจากพวกประจำเรือไป คนประจำเครื่องบินเหล่านี้เป็นคนที่ดีต่อเรามาก ได้ให้เครื่องถมเป็นที่ระลึก บินอยู่รอบเมืองรอบหนึ่งแล้วก็ร่อนลงสู่พื้นดินเมื่อเวลา ๑๗.๕๕ นาฬิกา.
อธิบดีกรมพิธีการแห่งรัฐบาลสวิสได้มารับรองในนามของรัฐบาล และแนะนำให้รู้จักกับบรรดาข้าราชการที่มารับนักเรียนไทย อัครราชทูตไทย และข้าราชการไทยก็พากันมารับด้วย รัฐบาลสวิสจัดรถยนต์ไว้ส่งเราถึงเมืองโลซานซึ่งอยู่ห่างจากเจนีวาไปราว ๖๐ กิโลเมตร.
อธิบดีกรมพิธีการและอัครราชทูตไทยนั่งรถไปกับข้าพเจ้าด้วย อธิบดีกรมพิธีการได้เล่าให้ฟังว่า รัฐบาลสวิสมีความยินดีนักที่ข้าพเจ้าเลือกมาอยู่และมาศึกษาที่สวิตเซอร์แลนด์นี้ บอกเขาว่าชอบประเทศนี้มาก เขาได้ชี้ชวนให้ชมสถานที่ต่างๆ ที่ผ่านมา โดยคิดว่า ข้าพเจ้าไม่รู้จัก และรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้ทราบว่าข้าพเจ้ารู้จักสถานที่เหล่านี้เป็นอย่างดีเพราะอยู่ที่นี่มาถึง ๑๔ ปีเศษแล้ว เขารับสารภาพว่าเขาเพิ่งเข้ามารับหน้าที่ใหม่ และเพิ่งมาจากอเมริกาใต้ แล้วเราก็คุยกันถึงเรื่องอื่นๆ ต่อไป ได้ทราบต่อมาว่า เขาเป็นคนชอบศึกษาเรื่องราวของชาวตะวันออกและพระพุทธศาสนาด้วย.
พอถึง “วิลลาวัฒนา” เขาก็ลากลับ อำนวยพรให้เรามีความสุขความเจริญ ข้าพเจ้าจึงขอให้เขานำคำขอบใจของข้าพเจ้าไปแจ้งต่อท่านประธานาธิบดี พร้อมทั้งคำอวยพรเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศนั้นด้วย.
เรากลับถึงโลซานแล้ว…ไม่ช้าข้าพเจ้าจะต้องเข้าเรียนต่อไป…
(พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช







  ✈✈✈  เมืองริมทะเลสาบ ที่สวยที่สุดในโลก ✈✈✈  

เมืองฮัลสแตท 


เมืองฮัลสแตท (Hallstatt) เมืองที่ได้ชื่อว่า เมืองรมทะเลสาบ และยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

ออสเตรีย โดยเมืองฮัลสแตทนั้น อยู่ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย ซึ่งเป็น 1 ใน 9 รัฐ ของประเทศออสเตรียนั่นเอง
    


         ฮัลสแตท เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลสแตท หรือฮัลสแตทเทอร์ ซี ทะเลสาบในเขตภูมิภาคซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut) ภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรีย สำหรับความโดดเด่นของเมืิองนั้น สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวจะสัมผัสได้ก็คือความเป็นชนบทเล็กๆ ที่มีอากาศแสนบริสุทธิ์เหมาะอย่างยิ่งที่จะเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศ และชมทัศนียภาพสวยๆ ของตัวเมืองที่ถูกโอบล้มไปด้วยทะเลสาบและเทือกเขาสูงตระหง่าน นอกจากนี้แล้ว นักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังสามารถเดินทางไปชมเหมืองเกลือโบราณที่มีอายุมากกว่า 7,000 ปี โดยการขึ้นกระเช้าไฟฟ้า เพื่อไปยังเหมืองเกลือที่ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 838 เมตร หรือใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น  สำหรับการเที่ยวชมเหมืองเกลือนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน – เดือนตุลาคมของทุกปี

           สุดท้ายขอแนะนำให้คุณไปพิสูจน์ความกล้ากันแบบเบาๆ ที่ ไบน์เฮาส์ (Beinhaus) หรือ โบน์เฮาส์ (Bone House) 

เป็นอาคารขนาดเล็กที่แยกออกจากคริสตจักร ซึ่งภายในเป็นที่เก็บหัวกะโหลกที่มีมากกว่า 1,200 กะโหลก โดยแต่ละกะโหลกจะมีชื่อของเจ้าของสลักติดไว้อย่างเป็นระเบียบส่วนใหญ่ล้วนเป็นของคนที่เสียชีวิตในศตวรรษที่ 18 – 19 ปัจุุบันเมืองฮัลล์ทัทท์ และเขตภูมิภาคซาลซ์คัมเมอร์กุทได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก  ในปี 1997 และเป้นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ใฝ่ฝันออยากมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิตอีกด้วย  


  

                      เมืองฮัลสแคท (Hallstatt) เมืองที่ได้ชื่อว่าเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก สวยจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ภาพของหมู่บ้านที่มีเทือกเขาเป็นองค์ประกอบอยู่ด้านหลังที่งดงาม ราวกับภาพวาด คือภาพที่ได้ถูกเผยแพร่มากที่สุดของประเทศออสเตรีย



✈✈ เที่ยวเมืองฮัลสแตท  ✈✈


วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เกาะเต่า

☆★เกาะเต่า"เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทย"★☆


 อากาศร้อน ๆ ทีไร ทำไมหัวใจมักจะเรียกร้อง สายลม แสงแดดและเกลียวคลื่น ริมชายทะเลทุกทีก็ไม่รู้ แถมที่เที่ยวแต่ละแห่งก็น่าหลงใหล ชวนให้ลองเข้าไปสัมผัสด้วยตา รับรู้ด้วยหูกันเสียจริง เฮ้อ...เลยเลือกไม่ถูกกันเลยนะว่าจะไปเที่ยวชายทะเลที่ไหนดี? 
          แต่สำหรับใครที่ต้องการหนีความวุ่นวายในสังคมเมือง ไปสัมผัสเม็ดทรายริมชายหาด ท่องเที่ยวในดินแดนใต้ท้องทะเล ลองมาปลีกวิเวกไปเป็นชาวเกาะดูไหมคะ ตามจุดหมายปลายทางของเรา...เกาะเต่านี่เอง 

 ความเป็นมา  

          เกาะเต่า อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะเต่ามีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว มีพื้นที่ 12,936 ไร่ ประกอบด้วยเกาะที่สำคัญด้วยกัน 2 แห่งคือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน ห่างจากเกาะพงันไปทางเหนือประมาณ 45 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุด เมื่อเทียบกับระยะห่างจากปากน้ำชุมพร 85 กิโลเมตร และห่างจากอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 120 กิโลเมตร  
          ด้วยความที่เป็นเกาะที่อยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่มาก ในอดีตบริเวณชายหาดจึงเต็มไปด้วยเต่าที่มาหาแหล่งวางไข่เป็นจำนวนมาก เพราะเงียบสงบและไม่มีใครมาอยู่อาศัย ภายหลังเมื่อเริ่มมีผู้คนเข้ามาทำกินบนเกาะและค้นพบแนวประการังที่งดงามรอบเกาะ จึงพัฒนากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นแหล่งดำน้ำที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้ความสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะเป็นแหล่งดำน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองโลกรองจากออสเตรเลีย  
เกาะเต่าในอดีต  

          เหตุเพราะเกาะเต่านั้นอยู่ห่างไกลมาก ยากที่จะเดินทางไปถึง ทำให้ในอดีตช่วงหนึ่งของเกาะแห่งนี้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษการเมืองเช่นเดียวกับเกาะตะรุเตา โดยส่วนใหญ่เป็นนักโทษการเมืองในคดีกบฏวรเดช พ.ศ.2476 และคดีพยายามก่อการกบฏ ใน พ.ศ.2481    

          นักโทษที่ถูกคุมขังนั้นส่วนใหญ่อยู่ด้วยควาลำบากเพราะน้ำจืดบนเกาะมีอยู่อย่างจำกัด ภายหลังมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ นักโทษที่ถูกจับกุมในคดีกบฏวรเดช พ.ศ.2476 และคดีก่อกบฏ ในปี พ.ศ.2481  แต่เดิมจึงได้รับการปลดปล่อยในราวปี พ.ศ. 2487  

 กิจกรรมท่องเที่ยวน่าสนใจบนเกาะ  

          บริเวณชายทะเลรอบเกาะเต่าถือว่าเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่มีหลากหลายมาก นักท่องเที่ยวที่ชอบดำน้ำจึงสามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น  
เกาะเต่าในอดีต  

          เหตุเพราะเกาะเต่านั้นอยู่ห่างไกลมาก ยากที่จะเดินทางไปถึง ทำให้ในอดีตช่วงหนึ่งของเกาะแห่งนี้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษการเมืองเช่นเดียวกับเกาะตะรุเตา โดยส่วนใหญ่เป็นนักโทษการเมืองในคดีกบฏวรเดช พ.ศ.2476 และคดีพยายามก่อการกบฏ ใน พ.ศ.2481    

          นักโทษที่ถูกคุมขังนั้นส่วนใหญ่อยู่ด้วยควาลำบากเพราะน้ำจืดบนเกาะมีอยู่อย่างจำกัด ภายหลังมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ นักโทษที่ถูกจับกุมในคดีกบฏวรเดช พ.ศ.2476 และคดีก่อกบฏ ในปี พ.ศ.2481  แต่เดิมจึงได้รับการปลดปล่อยในราวปี พ.ศ. 2487  

 กิจกรรมท่องเที่ยวน่าสนใจบนเกาะ  

          บริเวณชายทะเลรอบเกาะเต่าถือว่าเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่มีหลากหลายมาก นักท่องเที่ยวที่ชอบดำน้ำจึงสามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น  
 อ่าวหินวง เป็นอ่าวที่มีปลายแหลมทั้ง 2 ข้างโค้งเข้าหากัน อ่าวนี้จะไม่มีหาดทราย จะมีหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่เรียงรายทับซ้อนกันจนได้ชื่อว่า อ่าวหินวง อีกทั้งยังตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก จึงนับว่าอ่าวแห่งนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดบนเกาะเต่าก็ว่าได้ และมีเพียงรีสอร์ทที่เป็นบังกะโลไม่กี่แห่ง คุณสามารถนอนไกวเปลและชื่นชอบบรรยากาศสงบเงียบ 
อ่าวลึก อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเต่า โอบล้อมด้วยเชิงผาและแหลมหิน สถานที่แห่งนี้ถือเป็นสถานที่ที่มีความสงบอีกแห่งหนึ่งของเกาะเต่า และเป็นอ่าวที่มีลักษณะโค้งว้าวมากที่สุดของเกาะเต่า จึงเป็นที่มาของชื่ออ่าว แต่เส้นทางที่จะไปนั้น ลำบาก เป็นถนนลูกรังและก็ลาดชัน ต้องเช่ารถโฟวิวเท่านั้นจึงจะไปถึงที่หมายได้

          อ่าวมะม่วง เป็นอ่าวที่ไม่ติดกับอ่าวอื่น อยู่ทางตอนเหนือของเกาะเต่า มีระดับความลึก 10 เมตร ภูมิทัศน์เป็นผาหินสูงมีป่าเขียว ทำให้มองเห็นวิวของอ่าว สีน้ำฟ้าอมเขียวของอ่าวมะม่วงทำให้อยากไปว่ายน้ำและดำน้ำ เป็นจุดดำน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะ มีรีสอร์ทหรูและแพงกว่าจุดอื่น ๆ บนเกาะเต่า อีกทั้งยังเป็นจุดที่นิยมไปเล่นกีฬาทางน้ำ เช่น ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และพายเรือคายัค อย่างไรก็ตาม ถนนที่จะไปอ่าวมะม่วงไม่ค่อยได้รับการดูแล ดังนั้นวิธีที่จะเดินทางไปอ่าวมะม่วงได้ดีที่สุดคือใช้เรือหางยาว
  ลานหิน จ.ป.ร. 

          ลานหิน จ.ป.ร. ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายรีทางด้านตะวันตกของเกาะเต่า เป็นสถานที่ที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้บนแผ่นหินครั้งเสด็จประพาสที่เกาะเต่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 1899 นับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเกาะเต่าตั้งแต่สมัยโบราณจวบจนปัจจุบัน 
 จุดชมวิว จอห์น-สุวรรณ  

          ตั้งอยู่บริเวณอ่าวโฉลกบ้านเก่า ด้านทิศใต้บนเกาะเต่า ใช้เวลาในการเดินเท้าไม่เกิน 20 นาที เส้นทางเดินเท้าสู่จุดชมวิวนั้นค่อนข้างรกและชัน จุดชมวิวนี้จะมองเห็นโค้งอ่าวเทียนออก ที่เว้าเกือบจรดกับอ่าวโฉลกบ้านเก่า ทำให้จุดชมวิวนี้งดงามมากคล้ายกับเกาะพีพีดอน 
ทิปส์ท่องเที่ยว

           การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์บนเกาะเต่า ผู้ขับขี่ต้องมีความชำนาญในการขี่ และควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากสภาพทางบางช่วงค่อนข้างสูงชันและอันตราย เช่น ทางไปอ่าวลึก และทางบางเส้นเป็นถนนลูกรัง และควรเลือกเช่ารถจากร้านที่น่าเชื่อถือ โดยสอบถามได้จากที่พักที่ใช้บริการ เนื่องจากรถของร้านเช่าบางแห่งอาจมีสภาพที่ไม่ดี เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ หรือทางร้านอาจเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถเป็นจำนวนเงินมากในภายหลังได้

           การเดินขึ้นสู่จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณต้องผ่านป่ารกและบางช่วงสูงชัน ผู้ที่ต้องการเดินขึ้นจึงควรใส่รองเท้าผ้าใบและเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับการเดินป่า และควรมีผู้นำทางที่ชำนาญในเส้นทางไปด้วย เนื่องจากเส้นทางไม่ชัดเจน หากไปเองอาจหลงทางได้

           ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับท่องเที่ยวเกาะเต่า คือ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน